วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ถั่วพู

ทำความรู้จักถั่วพู
ภาพ:Ttttttt_1.jpg

         หากว่าไม่เคยเห็นหน้าตาของยำถั่วพูมาก่อน จากในหนังสือก็คงไม่คิดสั่งมารับประทาน เพราะความไม่คุ้นเคยของเรา เพราะเคยรู้สึกเอาเอง ว่า ฝักถั่วพูช่างน่าเหม็นเขียวอะไรอย่างนั้น เข้าใจถั่วพูผิด ๆ อยู่นานทีเดียว จนเมื่อได้ลองลิ้มยำถั่วพูจานแรกเข้าไป เมื่อนั้นก็เป็นต้องสั่งมาขึ้นโต๊ะทุกคร้งที่ได้ไปนั่งร้านอาหาร จะเป็นยำแบบเปรี้ยวที่ไม่ใส่กะทิแต่มีพริกขี้หนู หรือจะเป็นยำแบบมัน ๆ มีกะทิมีพริกเผาก็เยี่ยม บางสูตรก็มีมะพร้าวคั่ว เติมมาให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น หรือจะแค่ลวกจิ้มน้ำพริก ใส่ในขนมจีน ไม่ว่าจะกินกับน้ำยาแบบใดก็เด็ดทั้งนั้น

ภาพ:Ttttttt_9.jpg
         บางคนชอบกินสด รสจะมัน ๆ หรือไม่ชอบแบบสดก็ผักเล็กน้อยกับน้ำมันแล้วกินกับน้ำพริกหรือขนมจีน จะหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วผสมลงในทอดมันก็ได้เมนูเด็ดที่ชาวปักษ์ใต้นิยมก็คือแกงไตปลา ที่บางที่ก็ใส่ถั่วพูลงไปเพิ่มรสให้มันสะใจยิ่งขึ้น หากจะรับประทานฝักถั่วพูก็ควรรับประทานฝักอ่อนที่ยังไม่มีเมล็ด นอกจากผลที่เป็นฝักแล้ว ดอกอ่อน ยอดอ่อนก็ยังรับประทานได้อีกด้วย
         ทางแม่ฮ่องสอนเรียกถั่วพูว่าบ่อบะปะหลี คงเป็นภาษาไทยใหญ่กระมัง

ภาพ:Ttttttt_3.jpg
         ชื่อ : ถั่วพู
         ชื่อสามัญ : Winged bean
         ชื่อวิทยาศาสตร์ : Prosphocarpvs tetragonolobus (L.) DC
         วงศ์ : PAPILIONEAE

ประโยชน์ของถั่วพู
ภาพ:Ttttttt_6.jpg


         
คุณค่าสมุนไพรของถั่วพูมีมากเหมือนคุณค่าทางอาหารโดยมีส่วนที่ใช้เป็นยา คือ หัว และราก ส่วนหัวใช้บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง แก้ร้อนในกระหายน้ำ วิธีใช้โดยนำมาตากแห้ง หั่นแล้วคั่วไฟให้เหลือง ชงดื่ม เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการอ่อนเพลีย ใครที่ชอบเครียด เดี๋ยวเครียดเดี๋ยวเครียดก็น่าพิจารณาอยู่เหมือนกัน พิจารณานาน ๆ เดี๋ยวก็หิว เดี๋ยวก็ต้องสั่งยำถั่วพูมาสักจาน แก้เครียด ท้องอิ่มแล้วความเครียดก็ลดลงเสมอ

ภาพ:Ttttttt_7.jpg


         ใบยอดอ่อนและเมล็ดมีโปรตีนสูง ซึ่งช่วยย่อยไขมันอิ่มตัว ส่วนรากใช้รักษาอาการปวดมวนท้อง
         ใบยอดอ่อนและเมล็ดมีโปรตีนสูง ซึ่งช่วยย่อยไขมันอิ่มตัว ส่วนรากใช้รักษาอาการปวดมวนท้อง รักษาโรคลมพิษกำเริบ
         ต้องลองสัมผัสจึงเรียนรู้ว่า บางทีสิ่งที่เราเคยเชื่อหรือคิดว่าเป็นจริงอาจไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ เหมือนถั่วพูนั่นอย่างไร จากที่เคยเข้าใจถั่วพูผิด ๆ อยู่นานว่าน่าจะเหม็นเขียว ตอนนี้เปลี่ยนใจกลับมารักถั่วพูผู้มีปีกแล้วเรียบร้อยเหมือนหนังไทยที่พระเอกกับนางเอกมักเข้าใจผิดกันก่อน แล้วก็ต้องกลับมารักกัน เพราะเห็นความดีมีคุณค่า รสชาติที่เอร็ดอร่อย และได้ลองใจ (กิน) กันแล้วเรียบร้อย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
วราภรณ์ วิชญรัฐ, ไม้เลื้อยกินได้, สุรีวิยาสาส์น กรุงเทพมหานคร,2548. 120 หน้า

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ

            Information Technology หรือ IT คือ การประยุกต์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในระบบสารสนเทศ ตั้งแต่กระบวนการจัดเก็บ ประมวลผล และการเผยแพร่สารสนเทศ เพื่อช่วยให้ได้สารสนเทศที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ โดยเทคโนโลยีสารสนเทศ อาจประกอบด้วย
           
1. เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้สำนักงาน อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมต่างๆ รวมทั้งซอฟท์แวร์ทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในงานเฉพาะด้าน ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จัดเป็นเครื่องมือทันสมัย และใช้เทคโนโลยีระดับสูง (
High Technology)
           
2. กระบวนการในการนำอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ข้างต้นมาใช้งาน เพื่อรวบรวม จัดเก็บ ประมวลผล และแสดงผลลัพธ์เป็นสารสนเทศในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไป เช่น การจัดเก็บข้อมูลในลักษณะของฐานข้อมูล เป็นต้น



 




ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ


สามารถอธิบายความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศในด้านที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านต่าง ๆ ของผู้คนไว้หลายประการดังต่อไปนี้
ประการที่หนึ่ง เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้สังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็นสังคมสารสนเทศ 
ประการที่สอง เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบแห่งชาติไปเป็นเศรษฐกิจโลก ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของโลกผูกพันกับทุกประเทศ ความเชื่อมโยงของเครือข่ายสารสนเทศทำให้เกิดสังคมโลกาภิวัฒน์ 
ประการที่สาม เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้องค์กรมีลักษณะผูกพัน มีการบังคับบัญชาแบบแนวราบมากขึ้น หน่วยธุรกิจมีขนาดเล็กลง และเชื่อมโยงกันกับหน่วยธุรกิจอื่นเป็นเครือข่าย การดำเนินธุรกิจมีการแข่งขันกันในด้านความเร็ว โดยอาศัยการใช้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นตัวสนับสนุน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว 
ประการที่สี่ เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีแบบสุนทรียสัมผัส และสามารถตอบสนองตามความต้องการการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ที่เลือกได้เอง
ประการที่ห้า เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดสภาพทางการทำงานแบบทุกสถานที่และทุกเวลา
ประการที่หก เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการวางแผนการดำเนินการระยะยาวขึ้น อีกทั้งยังทำให้วิถีการตัดสินใจ หรือเลือกทางเลือกได้ละเอียดขึ้น 
            กล่าวโดยสรุปแล้ว เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทที่สำคัญในทุกวงการ มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโลกด้านความเป็นอยู่ สังคม เศรษฐกิจ การศึกษา การแพทย์ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การเมือง ตลอดจนการวิจัยและการพัฒนาต่าง ๆ